ภาครัฐเดินหน้านโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในภาคครัวเรือน ด้วยมาตรการ “ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” สำหรับผู้ติดตั้ง ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) โดยผู้มีสิทธิ์สามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาทต่อราย ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงพลังงานซึ่งมี 2 แนวทางหลักคือ
- ส่งเสริมการลงทุนและการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานด้วยมาตรการทางภาษี
- ส่งเสริมการติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ในบ้านที่อยู่อาศัย โดยให้สิทธินำไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 200,000 บาท ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันพลังงานสะอาดเข้าสู่ภาคครัวเรือนได้อย่างเป็นรูปธรรม
เป้าหมายของมาตรการ
- สนับสนุนให้ประชาชนติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อป (ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์) เพื่อช่วยลดค่าไฟและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในครัวเรือนทั่วประเทศ
- ครอบคลุมเฉพาะ ผู้ใช้ไฟประเภทบ้านอยู่อาศัย (ประเภท 1) และผู้มีฐานะต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 40 (1) – (8)
หลักเกณฑ์เงื่อนไข
- ผู้มีสิทธิ์สามารถนำ ค่าใช้จ่ายจริงในการติดตั้ง + ภาษีมูลค่าเพิ่ม (สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท) ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ครอบคลุมเฉพาะ ผู้ใช้ไฟประเภทบ้านอยู่อาศัย (ประเภท 1) และผู้มีฐานะต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 40 (1) – (8) ของประมวลรัษฎากร ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
- ชื่อเจ้าของระบบต้องตรงกับชื่อเจ้าของมิเตอร์ที่ขอใช้สิทธิ์ลดหย่อน
- สิทธิ์ลดหย่อนจำกัด 1 ระบบกับ 1 มิเตอร์ไฟฟ้า ต่อ 1 บุคคล
- ระบบ Solar rooftop ที่ติดตั้งต้องเป็นระบบ On-grid และ มีกำลังผลิตไม่เกิน 10 กิโลวัตต์สูงสุด (kWp) ต่อหลังคาเรือน
- ต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ (e‑Tax Invoice) ทั้งในส่วนการจัดซื้อและค่าแรงติดตั้ง
- ได้รับใบอนุญาตเชื่อมต่อระบบกับโครงข่ายไฟฟ้าอย่างถูกต้อง
เริ่มใช้สิทธิ์พร้อมใช้งานแล้วตามวัตถุประสงค์ภายใน วันที่ 31 ธันวาคม 2571
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.prd.go.th/